loader image

มูลนิธิสถาบันพลังงานทางเลือกแห่งประเทศไทย
Alternative Energy Institute of Thailand Foundation

อินโดรามา เวนเจอร์ส ตอกย้ำการสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืน ในงาน SX 2025

อินโดรามา เวนเจอร์ส ตอกย้ำการสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืน ในงาน SX 2025

บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ชั้นนำระดับโลกที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน นำเสนอนวัตกรรมล่าสุดและกลยุทธ์การสร้างคุณค่าในระยะยาว ภายใต้แนวคิด “Sustainable Value Creation” หรือการสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืน ภายในงาน Sustainability Expo (SX) 2025 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 กันยายน – 5 ตุลาคม ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยบูธของอินโดรามา เวนเจอร์ส ตั้งอยู่ในฮอลล์ 2 โซน Better Living ถ่ายทอดเส้นทางความยั่งยืนของบริษัทฯ ผ่านกลยุทธ์และผลลัพธ์ที่วัดผลได้ใน 6 โซนอินเทอร์แอคทีฟ ตามกรอบการสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนทั้ง 6 ด้าน

นายยาช โลเฮีย ประธานบริหารด้านปิโตรเคมี และประธานคณะกรรมการด้านการดำเนินงานที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล อินโดรามา เวนเจอร์ส กล่าวว่า “สำหรับอินโดรามา เวนเจอร์ส การสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืนถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญที่เชื่อมโยงการเติบโตทางธุรกิจกับผลลัพธ์ด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมที่วัดผลได้ ภายใต้กรอบการสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนทั้ง 6 ด้าน (Six Capitals) เรามุ่งเน้นที่จะสร้างความยืดหยุ่นทางการเงิน ความเป็นเลิศด้านการดำเนินงาน นวัตกรรม พันธมิตรเชิงกลยุทธ์ การพัฒนาบุคลากร และการบริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีความรับผิดชอบ เพื่อส่งมอบคุณค่าระยะยาวแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ทั้งนี้ งาน SX 2025 เปิดโอกาสให้เราได้แสดงให้เห็นว่ากรอบการทำงานนี้ช่วยเสริมความแข็งแกร่งแก่ธุรกิจหลักของเรา พร้อมยกระดับบทบาทของเราให้เป็นผู้นำในการกำหนดอนาคตของวัสดุที่ยั่งยืนและเคมีภัณฑ์ที่ขาดไม่ได้”

ภายในงาน SX 2025 บูธของอินโดรามา เวนเจอร์ส ถ่ายทอดแนวคิดนี้ออกมาอย่างชัดเจน ผ่านการจัดแสดงแบบอินเทอร์แอคทีฟบนพื้นฐานของกรอบการทำงาน Six Capitals ของบริษัทฯ เพื่อการสร้างคุณค่าในระยะยาว เปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมได้เห็นชัดว่าบริษัทฯ มีการถ่ายทอดกลยุทธ์เหล่านี้ไปสู่ผลลัพธ์ที่วัดผลได้ โดยบูธถูกแบ่งออกเป็น 6 โซน ดังนี้

ด้านการเงิน (Financial Capital) – แสดงถึงการสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตทางการเงินและความยั่งยืน โดยระดมเงินทุนด้านความยั่งยืนกว่า 2.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ ระหว่างปี 2561–2567 เพื่อนำไปลงทุนในเทคโนโลยีขั้นสูง การดำเนินงานทั่วโลก และโครงการริเริ่มด้านความยั่งยืน

ด้านการผลิต (Manufactured Capital) – ตอกย้ำความเป็นเลิศด้านการดำเนินงาน กำลังการรีไซเคิล และการดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดควบคู่ไปกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและของเสีย โดยในปี 2567 เพียงปีเดียว บริษัทฯ สามารถรีไซเคิลขวด PET ไปแล้ว 26.4 พันล้านขวด ช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกกว่า 2.6 ล้านตัน และกำลังดำเนินการตามแผนเพื่อขยายกำลังการรีไซเคิลต่อปีให้ถึง 1.5 ล้านตัน ภายในปี 2573

ด้านทรัพยากรมนุษย์ (Human Capital) – นำเสนอโปรแกรมการพัฒนาบุคลากรของบริษัทฯ สำหรับพนักงานกว่า 25,000 คนทั่วโลก เพื่อเสริมสร้างองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยบุคลากรและเตรียมพร้อมสำหรับอนาคต

ด้านสังคมและความสัมพันธ์ (Social & Relationship Capital) – นำเสนอโครงการให้ความรู้ด้านการรีไซเคิล เช่น โครงการ Waste Hero ซึ่งได้ให้ความรู้แก่ผู้คนกว่า 1.1 ล้านคน ครอบคลุม 1,360 โรงเรียนและมหาวิทยาลัย รวมทั้งความร่วมมือระดับโลกกับภาครัฐ องค์กรพัฒนาเอกชน (NGOs) และพันธมิตรในอุตสาหกรรม เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียน

ด้านทรัพย์สินทางด้านปัญญา (Intellectual Capital) – จัดแสดงนวัตกรรมที่ก้าวล้ำ อาทิ ขวดสปาร์กลิ้งไวน์ PET ที่รีไซเคิลได้ทั้งหมดเป็นครั้งแรกของโลก ขวด bio-PET เส้นใยโพลีเอสเตอร์ที่ยั่งยืน และสารลดแรงตึงผิวชีวภาพ ซึ่งเป็นผลมาจากความเชี่ยวชาญด้านการวิจัยและพัฒนา สิทธิบัตร และการพัฒนากระบวนการผลิต

ด้านธรรมชาติ (Natural Capital) – นำเสนอโครงการริเริ่มเพื่อการลดการใช้น้ำและพลังงาน และการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน รวมถึงหลีกเลี่ยงการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂ ) ได้กว่า 3.6 ล้านตัน ตั้งแต่ปี 2554 ผ่านการใช้ประโยชน์จากการใช้พลังงานหมุนเวียน และการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

นอกจากนี้ อินโดรามา เวนเจอร์ส ยังได้จัดงานแถลงข่าว โดยมี ดร.แอนโทนี วาตานาเบ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านความยั่งยืน ร่วมแบ่งปันความก้าวหน้าของบริษัทฯ ด้านต้นทุนทางปัญญา โครงการวิจัยและพัฒนาหลากหลายโครงการ การลงทุนในโซลูชันที่ยั่งยืนและเทคโนโลยีขั้นสูง รวมถึงการพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์โดยใช้กรอบการจำแนกผลิตภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน (Sustainability Product Classification – SPC) ด้วยการลงทุนกว่า 33 ล้านเหรียญสหรัฐในงานวิจัยและพัฒนา และการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่จำนวน 483 รายการ อินโดรามา เวนเจอร์ส ยังคงขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์โซลูชันที่มีคาร์บอนต่ำ สามารถนำไปรีไซเคิลได้ และชีวภาพ ครอบคลุมทั้ง PET เส้นใย และเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ เพื่อส่งมอบการสร้างคุณค่าและความได้เปรียบในการแข่งขันในระยะยาว ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ธุรกิจ IVL 2.0 ของบริษัทฯ ที่มุ่งเสริมความแข็งแกร่งทางการตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มสูง

“ด้วยแผนปฏิบัติการด้านความยั่งยืนระยะเวลา 3 ปี ‘Innovate to 2028’ เรากำลังปรับเปลี่ยนกลุ่มผลิตภัณฑ์ของเรา ขยายขีดความสามารถด้านการรีไซเคิล และเร่งการพัฒนานวัตกรรม เพื่อให้มั่นใจว่าเราจะเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมสู่อนาคตที่หมุนเวียนมากขึ้นและคาร์บอนต่ำลง เราจะยังคงลงทุนในการวิจัยและพัฒนา รวมถึงความร่วมมือทางเทคนิค เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ทั้งในด้านประสิทธิภาพและความยั่งยืน เพิ่มความพร้อมด้านกฎระเบียบ และเสริมสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน” ดร.แอนโทนี วาตานาเบ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านความยั่งยืน กล่าว

อินโดรามา เวนเจอร์ส ขอต้อนรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย พันธมิตร และผู้เข้าชมงาน ให้มาร่วมสำรวจบูธที่งาน SX 2025 และสัมผัสประสบการณ์ด้วยตนเองถึงการสร้างสรรค์เคมีภัณฑ์ใหม่ๆ การขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงของกลุ่มผลิตภัณฑ์ และการสร้างคุณค่าอย่างยั่งยืนเพื่อสังคมและโลกของบริษัทฯ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ไม่มีความเห็นที่จะแสดง

ADIPEC 2024 bio-paraxylene EGAT Ending Plastic Pollution ENEOS Corporation GISTDA HONGHUA GROUP IC&C Day 2024 Itawani Lifelong learning Living Learning Platform Mitsubishi Corporation Neste PEA PET Suntory Thailand Digital Outlook WORLD CLASS DESTINATION DEVELOPMENT กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กระทรวงพลังงาน กระทรวงแรงงาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค คณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์5 ซันโทรี่ พลังงานแสงอาทิตย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มิตซูบิชิ คอร์ปอเรชั่น วันสิ่งแวดล้อม สดช. สภากาชาดไทย ห้องเรียนสีเขียว อินโดรามา เวนเจอร์ส อิวาตานิ ฮิตาชิ เอนเนอร์ยี่ เชลล์ เชลล์แห่งประเทศไทย เนสท์เล่ (ไทย) เนสท์เล่ อินโดไชน่า เนสเต้ เอเนออส โซลาร์เซลล์