นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงานเปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการร่วมกันแก้ไขปัญหาปาล์มน้ำมันของประเทศ ดังนั้นปลัดกระทรวงที่เกี่ยวข้องทั้ง 4 กระทรวงคือ กระทรวงพลังงาน กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงอุตสาหกรรม จึงเตรียมประชุมหารือกันในอีก 2-3 สัปดาห์นี้เพื่อร่วมกันหาแนวทางแก้ไขปัญหาปาล์มน้ำมันทั้งระบบ เช่น การบริหารจัดการวัตถุดิบทั้งระบบ Supply Chain ตั้งแต่การผลิต การจัดเก็บ จนถึงการจำหน่าย การกำกับหรือควบคุมจำนวนโรงสกัดให้มีจำนวนที่เหมาะสมกับความต้องการใช้ของประเทศ รวมไปถึงการพัฒนาตามศักยภาพผู้ผลิตให้สามารถแข่งขันกับตลาดในต่างประเทศได้ เป็นต้น
ในส่วนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ ได้ร่วมกันแก้ไขปัญหาปริมาณผลผลิตปาล์มน้ำมันออกสู่ตลาดเกินกว่าปกติเป็นปริมาณ 180,000 ตัน (207 ล้านลิตร) ตามข้อมูล ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2560 ของกรมการค้าภายใน โดยกระทรวงพาณิชย์ ได้ขอความร่วมมือให้กระทรวงพลังงาน ประสานผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 เก็บสต็อกไบโอดีเซลเพิ่มขึ้น
การเพิ่มสัดส่วนผสมไบโอดีเซลในน้ำมันดีเซลหมุนเร็วจาก บี5 มาเป็นบี7 (มีผลตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม 2560) ส่งผลให้มีการใช้ บี 100 เพิ่มขึ้นจาก 2.2 ล้านลิตร/วัน (สัดส่วนการผสม 5-7% เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2559) เป็น 4.0 ล้านลิตร/วัน (สัดส่วนการผสม 6.5-7% เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2560) คิดเป็นปริมาณการใช้เพิ่มขึ้น 1.8 ล้านลิตร/วัน (ประมาณ 58 ล้านลิตร) เพื่อดูดซับปริมาณ CPO ส่วนเกินในตลาด
ปลัดกระทรวงพลังงานกล่าวว่า กระทรวงพลังงาน โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานได้สั่งการให้กรมธุรกิจพลังงาน ประชุมหารือกับผู้ค้าน้ำมันตามมาตรา 7 ทำให้มีการเก็บสต็อกไบโอดีเซล จากเดิมเก็บอยู่ที่ประมาณ 50 ล้านลิตร (ข้อมูล ณ ต้นเดือนมิถุนายน) และคาดว่าสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ เก็บได้ประมาณ 80 ล้านลิตร และจะพยายามผลักดันให้ได้ 100 ล้านลิตร ภายในเดือนสิงหาคม 2560 ซึ่งช่วยดูดซับปาล์มน้ำมันที่ล้นอยู่ประมาณ 30 % การดำเนินงานดังกล่าวน่าจะช่วยคลี่คลายปัญหาปาล์มน้ำมันที่ล้นตลาดในขณะนี้ไปได้ ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานจะบริหารต้นทุนเชื้อเพลิงด้านพลังงานให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และเชื่อว่าพระราชบัญญัติปาล์มน้ำมันฯ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่กำลังดำเนินการอยู่จะช่วยแก้ไขปัญหาในระยะยาว
และเพื่อเป็นการแก้ปัญหา CPO ล้นตลาดในระยะยาว ซึ่งฤดูกาลผลผลิตปาล์มน้ำมันจะสูงในช่วงเดือน มีนาคม– พฤษภาคม ของทุกปี และจะลดลงเรื่อยๆ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนอกเหนือจากกระทรวงพลังงาน จำเป็นต้องร่วมกันแก้ไขปัญหาทุกภาคส่วน เช่น การบริหารจัดการวัตถุดิบทั้งระบบ Supply Chain ตั้งแต่การผลิต การจัดเก็บ จนถึงการจำหน่าย การกำกับหรือควบคุมจำนวนโรงสกัดให้มีจำนวนที่เหมาะสมกับความต้องการใช้ของประเทศ หรือการพัฒนาตามศักยภาพผู้ผลิต (CPO และน้ำมันพืช) ให้สามารถแข่งขันกับตลาดในต่างประเทศได้ เป็นต้น