GUNKUL รุกงาน EPC-พลังงานทดแทนรับปีจอ

0
1722

GUNKUL ชูยุทธศาสตร์ปี 61 เน้นงานรับเหมาก่อสร้างวางระบบและติดตั้ง เผยมีลุ้นคว้างาน 10-20% จากมูลค่างานประมูลในแต่ละปีกว่า 10,000 ล้านบาท พร้อมเดินหน้าลุยธุรกิจพลังงานทดแทนเต็มสูบ  “โศภชา ดำรงปิยวุฒิ์” ระบุปีนี้ธุรกิจยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่องจากโครงการโซลาร์ฟาร์มและพลังงานลม มั่นใจปั๊มรายได้ทั้งปีโตไม่ต่ำกว่า 20% หลังตุนงานในมือไว้กว่า 1,500 ล้านบาท

 นางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทฯ ได้ปรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจโดยมุ่งเน้นงานด้านรับเหมาก่อสร้างวางระบบและติดตั้ง (EPC) มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นงานโครงการสร้างสถานีโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก งานระบบสายส่ง สายจำหน่าย งานวางระบบสายเคเบิลลงใต้ดินและงานวางสายเคเบิลใต้น้ำ เนื่องจากในแต่ละปีจะมีมูลค่างานประมูลออกมาประมาณ 10,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าจะมีส่วนร่วมในโครงการดังกล่าวปีละประมาณ 10-20%

นอกจากนี้บริษัทยังเดินหน้าลงทุนในโครงการพลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย 3 ปี (2561-2563) บริษัทฯ จะมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ในมือ 1,000 เมกะวัตต์ตามเป้าที่วางไว้ จากปัจจุบันบริษัทฯ มี PPA อยู่ในมือแล้วประมาณ 489 เมกะวัตต์


ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมปี 2561 จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปี 2560 โดยจะรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าที่ทยอยจ่ายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบเชิงพาณิชย์ (COD) กำลังการผลิตรวมในปี 2561 ประมาณ 200 เมกะวัตต์ ประกอบด้วย โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม จำนวน 2 โครงการ คิดเป็นกำลังการผลิตรวม 110 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น โครงการโรงไฟฟ้าสราญรมย์วินด์ฟาร์ม กำลังการผลิต 60 เมกะวัตต์ คาดว่าจะ COD ได้ในไตรมาสที่ 1/2561 และโครงการโรงไฟฟ้ามิตรภาพวินฟาร์ม กำลังการผลิต 50 เมกะวัตต์ คาดว่าจะ COD ได้ไตรมาสที่ 2/2561 รวมถึงโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ประเทศญี่ปุ่น 2 โครงการ กำลังการผลิตรวม 78 เมกะวัตต์ คาดว่าจะ COD ได้ในครึ่งปีหลัง


ปีนี้น่าจะเป็นปีที่ดีอีกปีหนึ่งของกลุ่มบริษัทฯ GUNKUL ที่ผลการดำเนินงานจะเติบโตอย่างมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น เพราะทยอยรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ที่เตรียม COD ในปี 2561 อีกทั้งยังมีแผนเข้าประมูลงานใหม่ๆ เพิ่มอย่างต่อเนื่อง เพื่อการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพของรายได้และกำไร ซึ่งปัจจุบันมีงานในมือ (Backlog) อยู่ประมาณ 1,500 ล้านบาท อันจะส่งผลให้รายได้ของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นกว่าปี 2560 ไม่น้อยกว่า 20% ซึ่งน่าจะส่งผลทำให้ภาพรวมของผลการดำเนินงานในอนาคตของบริษัทฯ มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น” นางสาวโศภชากล่าวในที่สุด