พพ. หนุนภาคอุตสาหกรรมร่วมอนุรักษ์พลังงาน มอบสัญญา “โครงการส่งเสริมการปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในระบบปรับอากาศขนาดใหญ่และระบบทำความเย็นในภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจ” แก่โรงงานควบคุมของ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ดำเนินการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน 32 โครงการ ตั้งเป้าจะช่วยประหยัดพลังงาน รวม 8.5 ล้านกิโลวัตต์ต่อปี ลดการปล่อยก๊าซโลกร้อนสูงถึง 4,606 ตันไดออกไซด์เทียบเท่า ช่วยสร้างสิ่งแวดล้อมโลกดีขึ้น
นายพงค์พัฒน์ มั่งคั่ง สำนักพัฒนาทรัพยากรบุคคลด้านพลังงาน กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กล่าวว่า พพ. เล็งเห็นว่า ปัจจุบัน ความต้องการใช้พลังงานในประเทศไทยยังขยายตัวอย่างต่อเนื่องตามการเติบโตทางเศรษฐกิจ จากข้อมูล ร้อยละ 60 ของการใช้พลังงานในภาคอุตสาหกรรมมาจากเครื่องปรับอากาศและระบบความเย็น โครงการส่งเสริมการปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในระบบปรับอากาศขนาดใหญ่และระบบทำความเย็นในภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจ เพื่อสนับสนุน และสร้างเครือข่ายความร่วมมือในการใช้พลังงานที่ยั่งยืน เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนทุนส่วนหนึ่งและคำแนะนำเอกชนปรับปรุงการใช้พลังงานในกระบวนการผลิตอย่างคุ้มค่า และประหยัดพลังงานอย่างเป็นรูปธรรม วัดผลได้ ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่บรรยากาศโลกต้นเหตุสำคัญของปัญหาโลกร้อน รวมไปถึงช่วยสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน และเพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดีของประเทศ
“ความร่วมมือของกรม พพ.และซีพีเอฟในวันนี้ มีความสำคัญมาก เป็นการผนึกกำลังของภาครัฐและเอกชนในการอนุรักษ์พลังงาน เพื่อตอบสนองนโยบายการอนุรักษ์พลังงานและ สร้างความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ รวมถึงช่วยบรรเทาผลกระทบจากโลกร้อนได้ ขณะเดียวกัน ยังช่วยขีดความสามารถในการแข่งขัน โครงการของซีพีเอฟจะเป็นต้นแบบที่ดีขยายผลสู่ภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ ได้อีกด้วย” นายพงค์พัฒน์กล่าว
พพ. ได้มอบสัญญาอุดหนุนการดำเนินโครงการปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานของระบบปรับอากาศขนาดใหญ่ และระบบทำความเย็น จำนวน 12 สัญญา แก่โรงงานควบคุมของซีพีเอฟ ดำเนินโครงการเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องทำระบบความเย็นและปรับอากาศ โดยมีตัวชี้วัดอย่างชัดเจน เพื่อให้เห็นผลของการประหยัดจริง ภายใต้กรอบเวลา 1 ปี โดยผู้ที่ได้รับการสนับสนุนจะได้รับเงินอุดหนุนตามผลที่เกิดขึ้นจริง
นายจารุบุตร เกิดอุดม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย สิ่งแวดล้อมและพลังงาน ซีพีเอฟ กล่าวว่า ความร่วมมือกับกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงานในการดำเนินโครงการประหยัดพลังงานและเพิ่มประสิทธิภาพระบบทำความเย็นและปรับอากาศในกระบวนการผลิต จำนวน 32 โครงการ อาทิ การปรับปรุงระบบทำน้ำแข็ง เปลี่ยนมอเตอร์ประสิทธิภาพสูง โดยเปลี่ยนใบพัดลม ปรับปรุงการลดความเย็นสูญเสีย จะช่วยให้ซีพีเอฟใช้พลังงานมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า โดยคาดว่า การดำเนินโครงการทั้ง 32 โครงการนี้จะช่วยให้ซีพีเอฟประหยัดการใช้พลังงานโดยรวมเพิ่มอีก 8.5 ล้านกิโลวัตต์ต่อปี สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้สูงถึง 4,606 ตันไดออกไซด์เทียบเท่า ซึ่งส่งผลให้บริษัทฯ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 0.52 เทียบกับปี 2558 รวมทั้งสามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึง 29 ล้านบาทต่อปีอีกด้วย
“การดำเนินโครงการประหยัดพลังงานร่วมกับ พพ. เป็นความมุ่งมั่นของซีพีเอฟที่ร่วมสร้างความยั่งยืนด้านพลังงานที่ตอบสนองนโยบายของภาครัฐ และเป้าหมายการประหยัดพลังงาน และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของซีพีเอฟที่ตั้งเป้าลดการใช้พลังงาน และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงร้อยละ 5 ในปี 2563 เทียบกับปีฐาน 2558” นายจารุบุตรกล่าว