หลังจาก เอ็มจี ได้สร้างกระแสครั้งใหญ่ ด้วยการปรากฏตัวของ NEW MG MAXUS 9 เป็นครั้งแรกในอาเซียน ที่งานมอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 ที่ผ่านมา ต่อด้วยการประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
โดย รุ่น X – LUXURY มีให้เลือก 2 สี คือ สีดำ และสีขาว จัดจำหน่ายในราคา 2.499 ล้านบาท
และ รุ่น V – SUPER LUXURY มีให้เลือก 3 สี คือ สีดำ และสีขาว จัดจำหน่ายในราคา 2.699 ล้านบาท และสีพิเศษเทาหลังคาดำ แกรนิต เกรย์ เพิ่ม อีก 30,000 บาท พิเศษในช่วงเปิดตัวด้วยแคมเปญพิเศษรวมมูลค่า กว่า 120,000 บาท
- ฟรี MG HOME CHARGER จำนวน 1 ชุด มูลค่า 42,057 บาท
- ฟรี ค่าติดตั้ง MG HOME CHARGER มูลค่า 18,692 บาท
- ฟรี ประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. คุ้มครอง 1 ปี
- พิเศษ! เงื่อนไขการรับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 200,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
- พิเศษ! ขยายระยะเวลารับประกันคุณภาพรถยนต์ 5 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)
- ฟรี บริการช่วยเหลือฉุกเฉินไม่จำกัดจำนวนครั้ง และไม่จำกัดระยะทาง พร้อมบริการรถ Limousine Service กรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน ตลอด 5 ปี ไม่จำกัดจำนวนครั้ง
นอกจากนี้ เอ็มจี ยังประกาศถึงแผนการส่งมอบ NEW MG MAXUS 9 ซึ่งรถล็อตแรกเดินทางถึงประเทศไทยแล้ว และเริ่มทยอยส่งมอบให้กับลูกค้าในวันที่ 9 พฤษภาคม 2566 โดยภายในเดือนมิถุนายน จะสามารถส่งมอบรถถึงมือลูกค้าได้ไม่ต่ำกว่า 500 คัน


สำหรับ NEW MG MAXUS 9 ต้องยกนิ้วให้กับงานดีไซน์ เริ่มตั้งแต่กระจังหน้าแบบ Grille Less Design สะดวกสบายด้วยประตูข้างทั้ง 2 ฝั่งเป็นแบบสไลด์ด้วยไฟฟ้า ฝากระโปรงท้ายเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า เมื่อเข้ามาภายในห้องโดยสารจะสัมผัสได้ถึงความพรีเมียม หรูหรา ทั้งการเลือกใช้วัสดุ ผิวสัมผัสต่างๆ โปร่งสบาย
ด้วยหลังคาแบบ Dual Panoramic Sunroof ขนาดใหญ่ มีการใส่ Ambient light ที่สามารถเลือกเปลี่ยนได้มากถึง 64 เฉดสี ตามสไตล์รถหรูในปัจจุบัน ระบบปรับอากาศเป็นแบบ Dual Zone ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เบาะแถวที่สองเป็นแบบ VIP Captain Seat และมีความใกล้เคียงกับที่นั่ง First Class บนเครื่องบิน โดยมีระบบบันทึก ระบบนวด และสามารถปรับระดับอุณหภูมิได้ตามความต้องการ มีโต๊ะที่สามารถพับเก็บได้ ตามแบบฉบับรถผู้บริหาร เครื่องเสียงรอบทิศทางด้านด้วยลำโพง 12 ตำแหน่ง ช่องเสียบ USB ที่มากถึง 9 ตำแหน่ง สะท้อนให้เห็นถึงการมุ่งเน้นความสะดวกสบายเป็นหลัก




ไม่เว้นแม้ตำแหน่งคนขับที่ใส่ฟังก์ชันอำนวยความสะดวกไว้ไม่น้อย อย่างเบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง กระจกมองหลังผ่านกล้อง Streaming Media Rearview Mirror กับมุมมองที่หาไม่ได้จากรถทั่วไป จอกลางแบบสัมผัสขนาดใหญ่ 12.3 นิ้ว ที่ใช้งานง่าย รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Android ซึ่งสมรรถนะการขับขี่ของ NEW MG MAXUS 9 เรียกได้ว่า สมฐานะของ e-MPV หนึ่งเดียวในไทย ด้วยขุมพลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุดที่ 245 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 350 นิวตัน-เมตร แบตเตอรี่แบบลิเธี่ยมไอออน จัดวางแบบ Cell-To-Pack ขนาดความจุ 90 kWh ให้ระยะวิ่งสูงสุด ที่ 540 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC รองรับการชาร์จเร็วสูงสุดที่ 120 kWh โดยชาร์จไฟจาก 30% – 80% ใช้เวลาเพียง 30 นาที และการชาร์จแบบธรรมดา รองรับการชาร์จสูงสุดที่ 11 kWh โดยชาร์จไฟจาก 5% – 100% ในเวลาประมาณ 8 ชั่วโมงครึ่ง พร้อมมั่นใจในทุกการขับขี่ด้วยระบบความปลอดภัยที่ครบครันที่สุด ด้วยระบบโครงสร้างตัวถังนิรภัยแบบ Full Space Frame ถุงลมนิรภัยรอบคัน และระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับสูงอย่าง ADVANCED SYNCHRONIZED PROTECTION SYSTEM พร้อมระบบ ADAS รวม มากถึง 25 ระบบ และได้รับมาตรฐาน 5 ดาว ทั้ง EURO NCAP และ AUSTRALIAN NCAP


ความได้เปรียบของลูกค้าเอ็มจี คือ ความแข็งแกร่งของระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าที่สามารถรองรับการใช้งานรถอีวีได้มากขึ้นด้วยการมีสถานีชาร์จเป็นของตัวเองอย่าง MG SUPER CHARGE STATION ที่เปิดให้บริการแล้วกว่า 130 แห่ง ทั่วประเทศ สำหรับใครที่กำลังมองหารถไฟฟ้า แบรนด์เอ็มจีก็ดูจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ MG CALL CENTRE โทร. 1267 และสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมของเอ็มจีได้ที่
Website: www.mgcars.com
Line: @MGThailand
Facebook: www.facebook.com/MGcarsThailand
Twitter: @mg_thailand
Instagram: @mgthailand
Youtube: MG Thailand
TikTok: @mgthailand
Application: MG Thailand