มูลนิธิสถาบันพลังงานทางเลือกแห่งประเทศไทย (AIT) ประกาศความสำเร็จในการจัดเวทีเสวนาครั้งสำคัญแห่งปี หัวข้อ “เชื้อเพลิงชีวภาพ Biofuel พลังงานเกษตรแห่งอนาคต” ณ งาน Motor Expo ครั้งที่ 42 เมื่อวันที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยเวทีดังกล่าวได้สรุปฉันทามติของภาครัฐและเอกชนว่า เชื้อเพลิงชีวภาพ คือเครื่องมือสำคัญที่สุดของประเทศไทยในการเปลี่ยนผ่านสู่สังคมที่เป็นกลางทางคาร์บอน (Net Zero) ภายในปี พ.ศ. 2593
นายสุเมฆ ปัณฑรานุวงศ์ ประธานมูลนิธิสถาบันพลังงานทางเลือกแห่งประเทศไทย (AIT) กล่าวสรุปถึงผลสำเร็จของงานว่า “วันนี้เราได้ตอกย้ำอย่างชัดเจนว่า ‘เชื้อเพลิงชีวภาพ’ ไม่ใช่แค่ทางเลือก แต่คือ ‘ยุทธศาสตร์หลัก’ ที่จะพาประเทศไทยสู่ Net Zero 2050 ได้อย่างมั่นคง เราใช้จุดแข็งที่สุดของประเทศคือ ‘พลังแห่งการเกษตร’ พลิกวิกฤตภูมิอากาศโลก ให้เป็นโอกาสในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับพืชผลทางการเกษตร ทำให้ประเทศไทยก้าวสู่เป้าหมาย ‘เกษตรมั่งคั่ง พลังงานยั่งยืน’ อย่างเป็นรูปธรรม”
เวทีเสวนานี้ได้รวบรวมผู้เชี่ยวชาญระดับสูงจากทุกภาคส่วน เพื่อนำเสนอทิศทางของพลังงานชีวภาพในอีก 25 ปีข้างหน้า
นายอลงกรณ์ พลบุตร ประธานที่ปรึกษาและผู้ก่อตั้ง AIT กล่าวเสริมว่า “ตลอด 23 ปีที่ AIT ก่อตั้ง เราเชื่อมั่นเสมอว่าพืชพลังงานของไทย ทั้งอ้อย มันสำปะหลัง และปาล์ม คือขุมทรัพย์ที่จะมาทดแทนฟอสซิลได้ ความสำเร็จของ E20/E85 และ B7/B10 เป็นเพียงจุดเริ่มต้น วันนี้ผู้เชี่ยวชาญทุกท่านได้ร่วมกันสร้างพิมพ์เขียวเพื่อก้าวไปสู่การใช้เชื้อเพลิงชีวภาพในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่และอากาศยาน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของความมั่นคงทางพลังงานที่ยั่งยืน”
ไฮไลต์สำคัญ: การก้าวสู่เชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (SAF)
ประเด็นที่สร้างความตื่นตัวสูงสุดคือการนำเสนอความพร้อมของไทยในการผลิต เชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (Sustainable Aviation Fuel – SAF) ซึ่งเป็นพลังงานแห่งอนาคตสำหรับอุตสาหกรรมการบิน:
นายสุรพร เพชรดี ผู้จัดการใหญ่ บริษัท BSGF จำกัด (กลุ่มบางจาก) ได้นำเสนอความก้าวหน้าในการผลิต SAF ซึ่งนับเป็นความสำเร็จครั้งแรกของประเทศไทยตามมาตรฐานสากล ICAO ที่จะช่วยผลักดันให้ไทยเป็นฐานการผลิตพลังงานสีเขียวระดับโลก
ดร.เสกสรร พาป้อง หัวหน้าทีมวิจัย MTEC ได้ชี้ถึงความจำเป็นในการพัฒนาเกณฑ์มาตรฐานความยั่งยืนของวัตถุดิบ SAF เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันให้กับผลผลิตทางการเกษตรของไทย
นอกจากนี้ การบรรยายของ พลเรือเอก ดร.สมัย ใจอินทร์ ในประเด็น “25 ปี โครงการเชื้อเพลิงชีวภาพ” และ ดร.บุรินทร์ สุขพิศาล ในการเปลี่ยนผ่านของอ้อยและปาล์มสู่พลังงานที่สร้างมูลค่าอย่างยั่งยืน ได้มอบมุมมองเชิงลึกที่ครอบคลุมมิติทางกฎหมายและเทคโนโลยี
ใส่ความเห็น